ชี้ช่องรวย…เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างไร ให้มีรายได้รวม 6x,xxx ต่อเดือน ก่อนอายุ 30 ปี


เงินเดือนอาจไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จทั้งหมดในชีวิต แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธเงินเดือนสูงๆสักคน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตั้งเป้าหมายว่าอยากมีเงินเดือนสูงๆอย่างใครเขาบ้าง วันนี้เราจะขอชี้แนะช่องทางในการไปถึงฝั่งฝันให้คุณเอง ความคิดนี้เป็นของสมาชิคเวปไซต์พันทิท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า  ‘สมาชิกหมายเลข 2402541’ จะเป็นสิ่งที่ทำได้จริงหรือไม่ ลองมาพิสูจน์กันเลยดีกว่า

สมาชิคท่านนี้อายุ 26 ปี เมื่อหารรายได้ต่อเดือนมาแล้วอยู่ที่เดือนละ 6x,xxx บาท โดยรายได้รวมในที่นี้คำนวนจากแค่เงินเดือนกับโบนัสเท่านั้น เทคนิคของเขามีดังต่อไปนี้

1. เรียนปริญญาโท
หากคิดจะเป็นมนุษย์เงินเดือนในบริษัทใหญ่ๆ ต้องเรียนปริญญาโท เพราะปัจจุบันวุฒิการศึกษากลายเป็นใบเบิกทางที่สำคัญมากสำหรับชาวออฟฟิศที่เอาไว้ใช้ในการเลื่อนตำแหน่ง กัดฟันเรียนไปเถอะค่ะ ไม่ใช่แค่ได้ความรู้อย่างเดียวลง แต่ยังได้คอนเนคชั่นที่สามารถต่อยอดได้อย่างหลากหลายด้วย ถ้าทำได้ให้ให้พยายามเรียนควบคู่ไปกับการทำงาน คุณจะได้ไม่เสียโอกาสทั้งสองทาง



2. ฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษ
ทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติล้วนแต่ใช้การสื่อสารทางอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น แม้ว่าในวงสนทนาจะมีแต่คนไทยทั้งหมดก็ตาม และคงน่าเสียดายน่าดูถ้าเราทำงานเก่งกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่ได้รับการโปรโมทเพราะภาษาอังกฤษไม่เก่ง ดังนั้น ลองเข้าหลักสูตรฝึกพูดอังกฤษ  ดูหนัง ฟังเพลงเป็นภาษาอังกฤษเพื่อฝึกตัวเองดู จากนั้นไปสอบโทอิคให้ได้คะแนนสัก 800 เพื่อเอามายื่นแนบไปกับใบสมัครงาน รับรองว่าเรียกเงินเดือนสูงขึ้นกว่าเดิมได้แน่ๆ

3. เลือกบริษัท "มหาชน" หรือบริษัทที่มีชื่อเสียง
บริษัทดังๆ หรือบริษัทมหาชนทั้งหลายจะช่วยเรื่องเครดิตในการทำงานของเราได้มาก เรียกว่าเป็นสิ่งแรกที่ถูกพิจารณามากกว่าประวัติการทำงานของเราเสียอีก หรือถ้าเคยอยู่บริษัทที่มีชื่อเสียงมาอยู่แล้ว ให้มองไปยังบริษัทคู่แข่งหรือบริษัทที่อยู่ในอันดับเหนือกว่าเรา เขาจะสามารถจ่ายค่าตัวเราได้มากกว่าและมีโอกาสได้งานสูงกว่าเดิมถ้าย้ายไป

4. เปลี่ยนงานถ้ามีโอกาส
ถ้ามีความสุขดีอยู่แล้วในที่ทำงานเดิม ให้ลองหาโอกาสสมัครงานที่ใหม่ดูบ้าง เพราะถ้าเราผลงานดี มีความสุข ก็มีโอกาสสูงมากที่จะโดน Counter Offer กลับจากบริษัทเดิม ในขณะที่คนที่อยากจะเปลี่ยนงานอยู่แล้ว ก็อย่าแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือด้วยการสมัครงานแบบหว่านไปทั่ว สิ่งที่ควรทำคือ การสร้างโปรไฟล์ใน Linked In และเว็บฝากงานทั้งหลาย  รวมถึงการฝากประวัติไว้กับบริษัท Head Hunter หรือบริษัทจัดหางานทั้งหลาย หากเขาสนใจประวัติเรา ก็จะเรียกเราไปสัมภาษณ์เอง

5. ย้ายงานก่อนโบนัสออก มีโอกาสได้งานมากกว่า
ถ้าเราอยากได้ค่าตัวสูงๆ เราควรหางานหรือสมัครงานในช่วงที่ตลาดงานไม่คึกคัก มีคนเปลี่ยนงานน้อย เพราะเมื่อเรามีคู่แข่งน้อย ก็ย่อมมีโอกาสถูกเรียกตัวมากขึ้น และสามารขอเงินเดือนที่สูงขึ้นได้ โดยอ้างเหตุผลเรื่องโบนัสของที่เก่าได้ด้วย เพราะถ้าย้ายงานหลังจากได้โบนัสไปแล้ว ก็ต้องมั่นใจและพร้อมรับมือกับกองทัพคู่แข่งที่พรั่งพรูย้ายงานด้วยเหมือนกัน

6. ทำ Resume เจ๋งๆ
Resume ควรเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นนะคะ ใส่ดีเทลงานลงไปให้ละเอียดและเน้นความเป็นทางการให้มากที่สุด  เงินเดือนปัจจุบันเท่าไหร่ อยากได้เท่าไหร่  เรียกไปเลยสัก 15 – 20 % เป็นขั้นต่ำ และที่สำคัญคือ รูปต้องดูดี เพราะคนไทยส่วนใหญ่มักจะตัดสินความเก่ง ความฉลาดกันจากหน้าตาและเครื่องแต่งกายในรูปถ่ายเป็นหลัก

7. พัฒนาตัวเอง
ทุกครั้งที่เริ่มงานใหม่ เราต้องใส่ใจในการทำงานมากกว่าเดิม ต้องนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงพัฒนา เรียนรู้จากคนที่เก่งกว่า ใกล้ชิดหัวหน้างานและผู้บริหารให้ได้มากที่สุด เพื่อซึมซับการตัดสินใจและการคิดวิเคราะห์ของพวกเขา พยายามเสนอโปรเจ็คใหม่ๆ ปรับปรุงระบบในการทำงานเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น และลงทุนกับความรู้ให้มาก อ่านหนังสือเข้าไป อบรมเข้าไป ทุกปีต้องเก่งและฉลาดขึ้นให้ได้

8. อย่าทิ้งข่าวสารบ้านเมือง
ข่าวสารในที่นี่ไม่ใช่ข่าวบันเทิงใต้เตียงดาราอย่างเดียวนะคะ แต่มนุษย์เงินเดือนควรมีความรู้เกี่ยวกับข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวต่างประเทศ ข่าวเทคโนโลยีใหม่ๆกันบ้าง เพราะพวกผู้ใหญ่ในองค์กรเขาชอบคุยเรื่องพวกนี้กัน ถ้ามีโอกาสได้โต้ตอบกับเขาได้ รับรองว่าไปได้ไกลกว่าเดิมแน่ๆ นอกจากนี้ ยังใช้เป็บความรู้ติดตัวหากคุณคิดจะทำธุรกิจของตัวเองควบคู่ไปด้วย

9. เชื่อมโยงให้เป็น สติอย่าหลุด คาดการณ์ล่วงหน้าให้ได้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง
ทุกวันที่ทำงาน ควรมีสติรู้ว่าแต่ละวันจะทำอะไร มีอะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้บ้าง สำรวจว่าเราเตรียมความพร้อมแล้วหรือยัง มิวินัยในตัวเองให้มากๆ อย่าปล่อยให้สติหลุดเด็ดขาด และอย่าผัดวันประกันพรุ่ง ทั้งหมดนี้น่าจะช่วยให้คุณประสบความสำร็จได้ไม่ยาก

หวังว่าทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาวมนุษย์เงินเดือนทุกคนนะคะ

.................................................
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://pantip.com/topic/34155083



ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!(Like)

Share this :

Previous
Next Post »