หากผู้ที่เคยทำแท้งและผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกสำนึกผิด มักจะมีความรู้สึกหดหู่ จิตใจไม่เบิกบาน เมื่อรู้สึกสำนึกผิดนั่นก็เป็นบุญเกิดขึ้นแล้ว ขอให้คิดว่าในวัฏสงสารอันยาวไกลนี้คงไม่เคยมีใครไม่ผิดศีลข้อ1เลย ทั้งทำร้ายเขาและถูกเขาทำร้าย ดังนั้นจงพยายามตั้งใจทำความดี กตัญญูต่อพ่อแม่ผู้มีพระคุณ รักษาศีล 5 และหมั่นเจริญกรรมฐาน (นั่งสมาธิ) ขออโหสิกรรมและแผ่เมตตา ชีวิตจะดีขึ้นแน่นอน
การรักษาศีลปฏิบัติธรรม ไม่ใช่แค่ 5 วัน 7 วัน ต้องทำไปเรื่อยๆ เเล้วคุณจะรู้สึกได้เองว่าคุณดีขึ้น อาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย เเต่ก็คุ้มมากเพราะถือว่าคุณจะได้สร้างกุศลเเละสะสมบารมีไปด้วยในตัวเพื่อเป็นเสบียงติดตามคุณไปทุกภพทุกชาติ
เปรียบบาปก็เหมือนเกลือ บุญก็เหมือนน้ำ ถ้าตักเกลือ ๑ ช้อนใส่แก้วใส่น้ำก็ได้น้ำเกลือเค็มๆ แต่ถ้าเรานำเกลือไปใส่ในโอ่งใบใหญ่ น้ำในโอ่งนั้นก็จะทำให้ความเค็มของเกลือเจือจางลงได้ การทำบุญก็เหมือนกันก็จะทำให้กรรมหนักกลายเป็นเบา จากเบาก็จะจางคลายไปในที่สุด
ที่สำคัญคือการรักษาใจให้เป็นปกติ ยินดีในบุญที่ทำ ยกตัวอย่างเรื่องเล่าโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
เรื่องทำแท้ง โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
เรื่องมีอยู่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งผิวขาว ร่างท้วม หน้าตาอิ่มเอิบ อายุ ๔๒ ปี เธอตาย เจ้าหน้าที่พาไปสำนักพยายม เรื่องนี้เป็นนิมิตลอยมาให้เห็น ไม่ใช่ทิพจักขุญาณ คือเมื่อเวลา ๑๘ นาฬิกาวันนี้ (๓๑ ต.ค. ๒๕๓๑) นอนภาวนาตามปกติ อารมณ์เคลิ้มเห็นภาพนี้ที่สำนักพระยายม มีหญิงคนหนึ่ง เด็กเล็กคนหนึ่ง เด็กคนนี้เล็กมากมีสภาพนอน พระยายมท่านถามหญิงคนนั้นว่า แม่หนูเธอทำแท้งหรือ เธอรับว่า ใช่เจ้าค่ะ ท่านถามว่า เมื่อทำแท้งแล้ว หลังจากนั้นทำบุญอะไรบ้าง เธอบอกว่า ที่จำได้ดี เพราะทำเป็นประจำ ก็คือบูชาพระ ว่า นะโม ๓ จบ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง และสวดอิติโสฯ สักกัตวา แล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่ทำแท้ง ขออย่าจองเวรจองกรรมเลย เมื่อถึงปีก็เป็นเจ้าภาพบวชพระทุกปี อุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่ทำแท้ง เธอพูดได้ชัดเจนชัดถ้อยชัดคำ ไม่เหมือนรายอื่นๆที่พูดไม่ใคร่เต็มเสียง และมีมากรายไม่พูดเลย พระยายมท่านบอกว่า บุญเธอมีมากและเด็กก็ไม่ได้จองเวรเธอ เธอไปรับผลของความดีก่อน คือไปสวรรค์
เมื่อเธอปลอดโทษแล้ว ผลบุญก็ตอบสนองเธอคือมีรูปสวยทันที เครื่องแต่งกายสวยมาก แพรวพราวเป็นระยับ ในนิมิตว่า มีโอกาสคุยกับเธอถึงความเป็นมาต่างๆ เธอเล่าให้ฟังว่า เมื่ออายุ ๑๗ ปี พี่สาวแต่งงานได้ ๒ ปีคลอดบุตร กำลังอยู่ไฟ พี่เขยเธอเข้าห้องผิด ไปเข้าห้องเธอเข้า เธอเห็นใจพี่เขยขณะที่พี่สาวกำลังอยู่ไฟ พี่เขยคงเปลี่ยวใจจึงอนุญาตให้เข้าห้องผิดได้เป็นประจำ
เวลาผ่านไป ๖ เดือนเศษ ผลของการเปิดห้องให้พี่เขยเลยเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา ๒ เดือน เมื่อเห็นท่าเรื่องจะบานปลาย จึงร่วมมือกับพี่เขยหายาขับเลือดอย่างแรง มีความร้อนสูง กินยานั้นเข้าไป ๒ ครั้ง เด็กเลยไหลออกมา แต่เมื่อฟังผู้ใหญ่พูดกันว่า คนทำแท้งนั้นบาปมาก เพราะฆ่าเด็กในครรภ์ จึงตั้งใจบูชาพระทุกวัน สวดมนต์ เมื่อจบแล้วก็นั่งหลับตานึกถึงลูกที่ตาย ขอให้มารับส่วนบุญและไม่จองเวร อ้อนวอนขอให้พระพุทธเจ้าช่วย ทำอย่างนี้เป็นปกติทุกวัน ใส่บาตรตอนเช้าทุกวัน อุทิศส่วนกุศลให้ลูกมารับไปกิน
เมื่อถึงฤดูกาลบวชพระ ก็เป็นเจ้าภาพบวชพระปีละองค์ทุกปี อุทิศให้ลูก ต่อมาอายุ ๔๒ ปี ๓ เดือน เธอป่วยเป็นโรคทางเดินอาหาร เธอนึกถึงพระพุทธที่เคยบูชา นึกถึงการใส่บาตร นึกถึงบวชพระ และภาพพระที่บวช
เมื่อตอนตายมีคน ๔ คนไปรับ ตอนนั้นเห็นพระพุทธรูปที่เคยบูชา พระพุทธรูปท่านพูดว่า พาเขาไปเถอะ ฉันไปด้วย แล้วท่านก็ลอยนำหน้าไป เมื่อถึงพระยายมท่านก็ยังลอยอยู่ตลอดเวลาการสอบสวน เมื่อพระยายมสอบสวนเสร็จ ภาพพระพุทธรูปจึงหายไป
เมื่อถามเธอว่า เธอจะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน เทวดาที่เรียกว่าเทวทูต ที่จะนำเธอไปส่ง ท่านตอบแทนเธอว่า ไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ครับ แล้วท่านก็พาเธอไป ผู้เขียนก็สดุ้งตื่นพอดี จบเรื่องเพียงเท่านี้.
วิธีขอขมากรรมจากการทำแท้ง
1. ลองคิดดูว่า ถ้าเราเขียนจดหมายแล้วไม่ใส่ชื่อผู้รับ จดหมายนั้นจะไปไม่ถึง ดังนั้นจึงควรตั้งชื่อบุตร แล้วเอ่ยชื่อเขาเวลาที่เราอุทิศบุญไปให้
***ให้ตั้งชื่อบุตร แล้วบอกกล่าวเขาด้วยการจุดธูป 1 ดอก ไปตรงที่โล่งแจ้ง ควรเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน เช่น เย็น กลางคืน หรือเช้ามืด แล้วกล่าวว่า...
“ข้าพเจ้าขอตั้งชื่อบุตรของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้กระทำผิดด้วยการทำแท้งให้ชื่อ.........นามสกุล.........เมื่อใดที่ข้าพเจ้าได้ทำบุญกุศล ข้าพเจ้าจะอุทิศบุญให้กับชื่อ ชื่อนี้ เพื่อเป็นการสะสมบุญเพื่อให้เขาได้กลับไปสู่ภพภูมิที่ถูกต้องต่อไป”
2. ใส่บาตรหรือถวายสังฆทาน ข้าว แกง ขนมหวาน ผลไม้ น้ำ นมกล่อง ดอกไม้ สังฆทานอาหารจะช่วยให้วิญญาณไม่อดอยาก (ไม่ควรใส่เงินในบาตรเพราะจะผิดพระวินัย)
3. ถวายสังฆทาน อาจจะจัดผ้าไตรจีวร 1 ชุด หรือ ถวายอังสะ และสบงก็ได้ตามกำลัง พร้อมเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระภิกษุ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ยารักษาโรค
โดยจัดให้มีพระพุทธรูป ๑ องค์ ขนาดใดปางใดก็ได้ เพราะพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันสูงสุด แต่ตำราส่วนใหญ่แนะนำพระปางสะดุ้งมาร ขนาด 3 นิ้ว 1 องค์ เพื่อใช้ประกอบพิธีแก้กรรมและวิบากกรรม (ไม่ใช่มาทำร้ายลูกเราเหมือนหลายๆ คนเข้าใจผิด)
ถวายปัจจัยตามสมควร โดยเขียนใบปวารณาถวาย และมอบปัจจัยแก่ไวยาวัจกร
เวลาถวาย ให้ถวายสังฆทานนี้โดยไม่เจาะจงพระภิกษุให้บอกพระว่า เราจะมาถวายสังฑทาน อุทิศให้กับลูกที่เสียชีวิตไป เสร็จแล้วกรวดน้ำให้ลูกเป็นอันเสร็จพิธี พยายามทำให้ได้ 9 ครั้ง หมั่นสวดมนต์ภาวนาทำบุญอุทิศให้เรื่อยๆ แผ่เมตตาให้เขาทุกคืน และอย่าลืมขออโหสิกรรมทุกครั้ง แล้วชีวิตจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
หมายเหตุ คำอธิฐานกรวดน้ำ ครั้งแรกเท่านั้น
เริ่มพูดหลังจากพระขึ้นคำกรวดน้ำว่า “ยะถา วาริวะหา “ วันนี้ พ่อและแม่มาทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ลูกของข้าพเจ้าชื่อ … (ชื่อที่เราตั้งในข้อ 1. ) กรรมทำแท้งที่พ่อและแม่ได้ทำไปโดยไม่ตั้งใหรือรู้เท่าไม่ถึงการ ขอให้ลูก……. (ชื่อที่เราตั้งในข้อ 1. ) โปรดอโหสิกรรม ขอให้ลูกเปิดทาง เปิดที่ทำกิน เปิดโชค เปิดลาภ ให้พ่อและแม่ด้วย นับแต่บัดนี้ขอให้ดวงวิญญาณของลูกไปเกิดในพระสะดุ้งมารและไปเกิดบนศาลา ไปอยู่ในร่มพระพุทธศาสนา
ขอให้ลูกจงพ้นทุกข์และมีความสุขยิ่งๆขึ้นไป และไปเกิดในภพภมูิที่ดียิ่งๆขึ้นไปเทอญ… เป็นอันจบพิธี …
*** หมายเหตุ หลังจากวันนี้ ควรทำบุญคือ ทำทุกๆวันพระหรือทุกเดือนตามเวลาและกำลังที่เรามี และเวลากรวดน้ำก็ให้ กรวดน้ำแบบธรรมดาได้เลย แต่ให้เจาะจงไปที่ลูกของเราที่เราทำแท้งไป เช่น “พ่อและแม่ขออุทิศบุญกุศลที่ทำในวันนี้ให้ลูกชื่อ……….” ไปเลย ไม่ต้องอุทิศให้ท่านอื่นๆ
*** อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่เราทำบุญไม่ว่าทำบุญอะไรก็ตาม ควรอุทิศให้ลูกๆไปเรื่อย รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร พ่อแม่ ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณทั้งหลาย
4. เมื่อเรามีโอกาสที่จะทำบุญใดๆ โดยเฉพาะบุญบวชพระ เราก็อุทิศบุญให้แก่เขาด้วยการกรวดน้ำ หรือถ้าเราเป็นเจ้าภาพบวชใคร ก็อาจให้พระองค์นั้นอุทิศบุญให้เเก่บุตรของเราในทุกวันที่บวชด้วย
5. รักษาศีล5 หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ เพราะบุญจะมากขึ้นตามลำดับคือ ทาน ศีล ภาวนา หลังจากนั่งสมาธิแล้ว อย่าพึ่งลืมตาให้ตั้งจิตขออโหสิกรรมและอุทิศบุญได้เลย
เราจะรู้ได้อย่างไรเกิดการอโหสิกรรมจากลูกของเราที่เราทำแท้งไป
1.ขณะทำบุญหรือพิธีจะเกิดลมพัดโชยมาครู่หนึ่ง
2.เข้าฝันลาไปเกิด หรือฝันที่เกี่ยวข้อง
3.โชค ลาภ เงินทอง เข้ามา การงานการเงินดีขึ้น
4.อาการเจ็บป่วยจะดีขึ้น ตามลำดับ
บทความนี้ ขออุทิศบุญให้ดวงวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้งทั้งหลาย จงมีความสุขและพ้นทุกข์ด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญทั้งหลายของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน แก่บิดามารดาทุกๆ ภพ ทุกๆ ชาติ ญาติทั้งหลาย ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย มิตรและบริวารทั้งหลายเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน สัตว์โลกทั้งหลาย สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย สัตว์นรกทั้งหลาย เปรตทั้งหลาย อสุรกายทั้งหลาย ท่านที่ประสบทุกข์ภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ และภัยสงครามทั้งหลาย สัตว์โลกทั้งหลายไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ
ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านที่มีสุขดีอยู่แล้วขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป
ขอให้ท่านทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม จงได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ
พิธี อโหสิกรรมทำแท้ง วัดหนองรั้ว
สิ่งที่ต้องนำมาใช้ในการประกอบพิธี ประกอบด้วยของ 3 ส่วน
ส่วนที่ 1
1. ตุ๊กตาเด็กเล่น ชาย 1 ตัว หญิง 1 ตัว ต่อการทำแท้ง 1 ครั้ง
1.1 เสื้อผ้าเด็ก 1 ชุด เสื้อและกางเกง แนะนำให้ใช้เสื้อผ้าแบบกลางๆหมายถึงใส่ได้ทั้งเด็กชาย/หญิง ควรเป็นเสื้อยืดลายการ์ตูน กางเกงยางยืดลายการ์ตูน
1.2 รองเท้าแตะเด็ก 1 คู่
1.3 ของเล่นเด็ก 1 ชิ้น
*ในกรณีทำแท้งเกินจาก 1 ครั้ง เพิ่มของส่วนที่ 1 ตามจำนวนที่ทำแท้ง
ส่วนที่2
2. ข้าวสวย 1 ถุง
2.1 กับข้าว 3 อย่าง
2.2 ของหวาน 1 อย่าง
2.3 นมจืด 1 แพค
2.4 น้ำเปล่า 1 แพค
*ในกรณีทำแท้งเกินจาก 1 ครั้ง เพิ่มของส่วนที่ 2.3และ 2.4 ตามจำนวนที่ทำแท้ง
ส่วนที่ 3
3 พระปางค์สะดุ้งมารหน้าตัก 3 นิ้วขึ้นไป 1 องค์
3.1 ชุดสังฆทาน 1 ชุด แนะนำให้จัดเอง โดยใช้กระป๋อง/กะละมัง/ถาด/ตระกร้าอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วใส่อุปกรณ์ชำระล้างลงไปเช่น ผงซักฝอก สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ
กรณีทำแท้งเกินจาก 1 ครั้ง ของส่วนที่ 3 ใช้เท่าเดิม
กรณีไม่สะดวกจัดหาสิ่งของในการทำพิธี ทางวัดมีส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 3
จัดเตรียมไว้ให้ โดยให้ญาติโยมหยอดตู้แล้วแต่ศรัทธาโดยไม่มีการกำหนดราคาใดๆ
ทางวัดหนองรั้วไม่มีการเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการทำพิธีใดๆทั้งสิ้น
สอบถามเส้นทาง และ ข้อมูลเพิ่มเติม...ที่
มือถือ 099 6799 823 / 093 280 6913
ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!(Like)